ลูกศรคอนกรีตที่ถูกลืมขนาดใหญ่ จากชายฝั่งตะวันออกสู่ตะวันตกของสหรัฐฯ

หากบังเอิญว่าคุณออกทริปท่องเที่ยวที่ประเทศสหรัฐฯ แล้วบังเอิญว่าคุณดันหลงทาง บังเอิญกว่านั้นอีกคือคุณไม่มีเข็มทิศ ไม่มีแผ่นที่ และซวยซ้ำซ้อนด้วยการแบตเตอรี่มือถือหมดเกลี้ยง ที่สำคัญ ไม่ได้พกพาวเวอร์แบงค์มาด้วย แน่นอนว่า ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังแบบนี้ คุณอาจจะพยายามมองหาปาฏิหาริย์บางอย่าง ที่จะทำให้คุณรอดไปได้

แต่ลองมองรอบๆ คุณอาจจะพบว่า ที่พื้นดินใกล้ๆคุณนั้น สิ่งก่อสร้างคอนกรีตขนาดใหญ่เป็นรูปลูกศรอยู่บนพื้น และถ้าคุณโชคดีพอที่จะค้นพบมัน ยินดีด้วย คุณได้ระบบ GPS ยุคโบราณแล้ว

อันที่จริงจะเรียกว่าระบบ GPS ยุคโบราณ ก็ไม่ใช่คำเรียกที่ถูกนัก อย่างไรก็ตาม สิ่งก่อสร้างนี้ถูกใช้ด้วยจุดประสงค์อย่างเดียวกัน คือใช้ระบบพิกัด โดยเฉพาะให้กับนักบินในยุคก่อน ที่จะไม่หลงทางนั่นเอง

ลูกศรคอนกรีตที่พื้นนี้ มีขนาดราว 70 ฟุต มันถูกใช้โดยไปรษณีย์สหรัฐฯในสมัยก่อน เพื่อใช้นำทางเครื่องบินส่งพัสดุ เพราะสมัยก่อนนั้น ไม่มีระบบนำทางหรือ GPS ที่สามารถระบุพิกัดและบอกทิศทางได้ทันสมัยเหมือนอุปกรณ์สมัยนี้นั่นเอง

Photo by Clay Fraser

ลูกศรเหล่านี้ จะชี้ทางออกจากทะเลทราย ซึ่งถ้าคุณเดินทางมันไปเรื่อยๆ ก็จะพบแหล่งชุมชนและทางออกจากทะเลทรายในที่สุด

ในอดีตนั้น ไปรษณีย์สหรัฐฯได้เริ่มต้นให้บริการขนส่งพัสดุและจดหมายข้ามประเทศ จากตะวันออกไปตะวันตก โดยใช้เครื่องบินที่เหลือจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และแน่นอน นักบินก็คือนักบินเก่าของกองทัพสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 นั่นแหละ โดยเมื่ออกจากกองทัพแล้ว พวกเขาก็มาขับเครื่องบินส่งพัสดุไปทั่วสหรัฐฯ โดยใช้ลูกศรดังกล่าวเป็นเครื่องหมายนำทางนั่นเอง

โดยเครื่องหมายลูกศรคอนกรีตนี้ ถูกสร้างในปี 1924 ซึ่งรัฐบาลกลางสหรัฐฯได้ให้ทุนในการสร้างสิ่งก่อสร้างนี้ทุกๆ 10 ไมล์ เพื่อช่วยให้นักบินสามารถขับเครื่องบินไปในทิศทางที่ถูกต้องได้แม้ในยามที่สภาพอากาศเลวร้าย หรือโดยเฉพาะในช่วงกลางคืน

อันที่จริงแล้ว สิ่งก่อสร้างแบบเต็มๆ จะไม่ใช่แค่ลูกศรคอนกรีตเท่านั้น แต่เป็นอาคารกระท่อมหลังเล็กๆทาสีส้มพร้อมกับเสาสูงที่คอยเปิดไฟวับวาบหรือที่เรียกว่า ‘บีคอน’ ไว้

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เทคโนโลยีด้านวิทยุและระบบเดินอากาศนั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นมาก ทำให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯตัดสินใจรีไซเคิลอาคารและเสาบีคอนเหล่านั้นให้กลายเป็นเศษเหล็กไป เหลือเพียงแค่ลูกศรคอนกรีตที่ชี้ทิศทางห่างกันทุกๆ 10 ไมล์นั่นเอง

ที่มา : messynessychic.com , เรียบเรียง : Walkki

Total
1
Shares
Previous Post

‘ชานคิลโล’ หอดูดาวโบราณจากอารยธรรมลึกลับในเปรู ที่เก่ากว่าอายรธรรมอินคา

Next Post

หนูน้อยวัย 6 ขวบ ขายของเล่นตัวเอง เพื่อซื้อแมคโดนัลด์เลี้ยงเด็กกำพร้า

Related Posts

หมดปัญหาพนักงานอู้ในห้องน้ำ ด้วยโถส้วมแบบพิเศษ

แน่นอนว่า ไม่ว่าคุณจะทำงานอยู่ในบริษัทใหญ่หรือเล็กแค่ไหน แต่สำหรับพนักงานออฟฟิศแล้ว ห้องน้ำคือพื้นที่ศักดิ์สิทธิที่ทำให้คุณสามารถใช้เวลาส่วนตัวได้โดยไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายได้แม้แต่เจ้านายของคุณ และทุกคนคงจะเคยผ่านประสบการณ์เข้าไปนั่งอู้ในห้องน้ำกันแล้ว บางคนอาจจะบอกปวดท้อง บางคนอาจจะบอกท้องเสีย แต่จริงๆแล้วเข้าไปนั่งหลับ นั่งอู้ นั่งแชทอยู่ในห้องน้ำ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่านวัตกรรมใหม่นี้จะเป็นฝันร้ายของเหล่าพนักงานออฟฟิศสายอู้ เพราะห้องส้วมที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เราสามารถอู้ได้มาโดยตลอดนั้น จะไม่สามารถอู้ได้อีกต่อไป เพราะสิ่งประดิษฐ์นี้ สิ่งประดิษฐ์นี้ คือชักโครกนั่นเอง แต่มีความพิเศษตรงที่มีมุมนั่งลาดเอียงลงไป…
Read More

น้ำจิ้มซีฟู้ดอยู่ไหน?? ครอบครัวมาปิคนิคทำบาร์บีคิวอยู่ดีๆ ฝูงปูยักษ์มาร่วมจอยซะอย่างงั้น

การได้ใช้วันหยุดไปปิคนิคกับครอบครัวนั้น เป็นอะไรที่ฟังดูน่าสนุก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเราวางแผนกิจกรรมสนุกๆต่างๆนาๆไว้ เราก็ย่อมคาดหวังประสบการณ์วันหยุดที่แสนจะดีเยี่ยมแน่ๆ อย่างไรก็ตาม อะไรๆก็ไม่ได้เป็นใจขนาดนั้น เพราะแผนการพักร้อนสุดสนุกของครอบครัวนี้กลับต้องถูกรบกวนด้วยเจ้าฝูงปูยักษ์จำนวนมาก ครับ! คุณไม่ได้อ่านผิด ฝูงปูยักษ์นั่นแหละ Amy Luetich นั้นได้พาครอบครัวไปตั้งแคมป์บนเกาะแห่งหนึ่งในมหาสมุทรอินเดีย โดยในระหว่างที่พวกเขากำลังปิ้งบาร์บีคิวกันอย่างสนุกสนานนั้น อยู่ดีๆก็มีฝูงปูมะพร้าวยักษ์กรูกันขึ้นมาบริเวณที่พวกเขาอยู่ โดยปูพวกนี้ คือปูมะพร้าวยักษ์…
Read More

‘บ้านกระจกล่องหน’ ในลอนดอน ที่ผู้คนผ่านไปมาเกือบจะไม่ทันสังเกตุว่ามันตั้งอยู่ที่นั่น

ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาในย่านริชมอนด์, ลอนดอน ประเทศอังกฤษ อาจจะต้องงงเล็กน้อย เพราะบ้านหลังหนึ่งในย่านนั้นถูกออกแบบโดยให้มีกระจกสะท้อนล้อมรอบทั้งหลัง ซึ่งเมื่อมองผ่านๆโดยไม่ทันสังเกตุให้ดีแล้วละก็ อาจจะไม่ทันเห็นบ้านหลังนั้นเลย จนชาวบ้านแถวนั้นเรียกกันว่า ‘บ้านล่องหน’ โดยบ้านหลังนี้นั้นตั้งอยู่บนถนนหมายเลข A316 ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินริชมอนด์ ซึ่งแม้บางคนอาจจะเข้าใจว่า บ้านหลังนี้นั้นไม่มีคนอยู่ แต่จริงๆแล้ว บ้านหลังนี้นั้นมีคนอยู่จริงๆ เป็นที่พักอาศัยจริงๆ ไม่ใช่สถาปัตยกรรมที่สร้างมาเป็นแลนด์มาร์คแต่อย่างใด…
Read More