ดาวอังคารนั้นเป็นสถานที่ๆมนุษย์เราให้ความสนใจมากเป็นพิเศษรองมาจากดวงจัทร์ ด้วยความที่หากเทียบสภาพแล้ว มันเป็นดาวเคราะห์ที่ดูจะคล้ายโลกที่สุดในระบบสุริยะจักรวาลของเรา จนถึงขั้นทำให้มีหลายคนมองไปไกลถึงการตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร
อย่างไรก็ตาม บนดาวอังคารนั้นยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องศึกษาเพิ่มเติม เพราะสภาพแวดล้อมต่างๆนั้นแตกต่างจากโลกมนุษย์โดยสิ้นเชิง ซึ่งหนึ่งในนั้น คือการเกิดแผ่นดินไหวบนดาวอังคาร

บนดาวอังคารนั้น การเกิดแผ่นดินไหวจะไม่เหมือนกับบนพื้นโลก ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2019 นักวิทยาศาสตร์ได้ติดตามการเกิดแผ่นดินไหวบนดาวอังคารด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า Seismometer ที่ถูกติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์สำรวจที่ชื่อว่า InSight ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถตรวจจับตำแหน่งการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้ถึงสองจุด

โดยครั้งแรกนั้น มีชื่อโค้ดเนมว่า S0976a มีความแรงระดับ 4.2 แม็กนิจูด บันทึกได้วันที่ 25 สิงหาคม 2021 ส่วนอีกครั้งหนึ่ง มีโค้ดเนมว่า S1000a มีความแรงระดับ 4.1 แม็กนิจูด เกิดขึ้น 24 วันต่อมา ซึ่งความรุนแรงที่วัดได้นั้น รุนแรงกว่าการเกิดแผ่นดินไหวอื่นๆมากถึง 5 เท่า

และตำแหน่งที่เกิดแผ่นดินไหวนั้นก็ยิ่งน่าสนใจ เพราะจุดศูนย์กลางนั้นเกิดขึ้นในโซนที่เรียกว่า ‘โซนมืด’ หรือ Shadow Zone ซึ่งอยู่อีกฝั่งของดาวอังคารและตรงข้ามกับ InSight ที่ติดตั้งอยู่บนดาวอังคาร ซึ่งแปลว่า นี่เป็นครั้งแรกที่อุปกรณ์ตรวจจับนั้นสามารถวัดค่าได้จากระยะที่ไกลมากๆ

“ไม่ใช่แค่พวกมันจะมีขนาดใหญ่และไกลมากเท่านั้น การเกิดแผ่นดินไหว S1000a ยังมีสเป็คตรัมและระยะเวลาที่ไม่เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่เราเคยเห็นมาก่อน” แอนนา ฮอร์เลสตัน นักธรณีวิทยาดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยบริสตัล ในประเทศอังกฤษบอก
“พวกมันเป็นแผ่นดินไหวบนดาวอังคารที่น่าประทับใจจริงๆ”
นอกจากนี้ ทีมงานยังได้บรรยายถึง S1000a ว่า “ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด” นับตั้งแต่ที่เคยมีการบันทึกมาโดยสังเกตุได้จากคลื่นสเป็คตรัมของพลังงานที่มันผลิตออกมา และที่สำคัญ มันมีระยะเวลานานมาก นานถึง 94 นาทีเลยทีเดียว (ลองจินตนาการว่ามีแผ่นดินไหวนานต่อเนื่องชั่วโมงครึ่งบนโลกดูสิ ว่าจะน่ากลัวขนาดไหน)

การตรวจจับแผ่นดินไหวบนดาวอังคารนี้ ใช้เทคนิคที่เรียกว่า การตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า PP Waves และ SS Waves ซึ่งได้ถูกใช้ในการตรวจจับแผ่นดินไหว S0976a และ S1000a ซึ่งคลื่นนี้ไม่ได้มีทิศทางไปในทิศที่เกิดแผ่นดินไหวในแนวราบ แต่จะสะท้อนกลับขึ้นมาบนพื้นผิวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ทำให้ InSight สามารถตรวจจับข้อมูลได้แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลออกไป

จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวทั้งสองครั้งนี้ เกิดขึ้นที่บริเวณที่เรียกว่า Shadow Zone โดยเฉพาะในบริเวณหุบเขายักษ์บนดาวอังคารที่ชื่อว่า Valles Marineris ซึ่งเป็นบริเวณที่ InSight ไม่สามารถตรวจจับคลื่น P และ S ได้โดยตรง
โดยบริเวณหุบเขา Valles Marineris นี้ ถูกสันนิษฐานว่า เป็นพื้นที่ๆอาจจะเกิดแผ่นดินไหวได้ และนี่ก็ครั้งแรกที่ข้อสันนิษฐานนั้นได้รับการยืนยันความถูกต้อง
ที่มา : sciencealert.com