กำลังเข้าสู่ช่วงหน้าร้อน (อันที่จริงก็รู้สึกว่าเป็นหน้าร้อนตลอดนะ) ที่เรียกได้ว่าเป็นฤดูเที่ยวทะเลของไทย ซึ่งหลายคนคงมีแพลนทริปเที่ยวกันแล้ว และกิจกรรมสนุกๆที่ทะเล ก็คงหนีไม่พ้นการเล่นน้ำทะเล เล่นเซิร์ฟ ล่องเรือ ดำน้ำ ฯลฯ
แต่เชื่อมั้ยว่า ทะเลที่สวยงามพร้อมกับแดดร้อนที่สาดส่องมานั้น กลับไม่ได้สวยงามและดูน่าหลงใหลสำหรับทุกคน เพราะจะมีบางคนที่มีอาการที่เรียกว่า ‘ธาลัสโซโฟเบีย’ หรือโรคกลัวทะเล จนทำให้ไม่กล้าที่จะลงเล่นน้ำทะเลหรือทำกิจกรรมใดๆที่ทะเลเลย
เชื่อมั้ยว่า หลายคนมีอาการแบบนี้ บางคนอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เอาล่ะ Walkki จะมาเล่าให้ฟัง ถึงอาการที่ว่า ว่ามันเป็นยังไง
ก่อนอื่นเลย ลองดูภาพนี้ก่อน แล้วลองตอบตัวเองว่า คุณรู้สึกยังไงกับภาพนี้

รู้สึกยังไงกันบ้างครับ ดูแล้วกลัวๆแปลกๆหรือเปล่า ถ้าใช่ นั่นแหละครับ คุณกำลังเป็นโรคธาลัสโซโฟเบีย
โรคธาลัสโซโฟเบียนี้ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า (Thalassophobia) โดยมีรากศัพท์มาจากภาษากรีก คำว่า Thalasso ที่แปลว่า ทะเล มหาสมุทร หรือน้ำลึก ส่วนคำว่า Phobia นั้น ก็แปลว่า ความกลัว และเมื่อรวมกัน Thalassophobia ก็แปลว่า โรคกลัวทะเล นั่นเอง
จริงๆแล้วโรคนี้ไม่ใช่ว่าจะเป็นการกลัวทะเลหรือน้ำทะเลเสียทีเดียว เพราะจริงๆแล้วเป็นอาการกลัวสิ่งที่มองไม่เห็นใต้ทะเลลึกซะมากกว่า ลองจินตนาการว่า ทะเลนั้นกว้างใหญ่แค่ไหน และเมื่อเราไปเล่นน้ำ ไปดำน้ำ หรือว่ายน้ำทะเล เราไม่มีทางรู้เลยว่ามีอะไรอยู่ใต้น้ำนั้น และความกลัวนั่นแหละ คืออาการของโรคนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออยู่ในบริเวณที่แยกความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างพื้นที่ที่มองเห็น และพื้นที่ที่มองไม่เห็นสิ่งต่างๆรอบตัว ดังเช่นรูปข้างล่างนี้

หรือภาพข้างล่างนี้

โรคนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?
พันธุกรรม – แม้จะยังไม่มีการวิจัยที่ชัดเจน แต่เชื่อกันว่า โรคกลัวน้ำลึกนั้นเป็นสิ่งที่ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาตั้งแต่โบราณ เป็นจิตใต้สำนึกของการระวังภัยที่มองไม่เห็น โดยจากการศึกษาในปี 2016 นั้น นิโคลัส คาร์ลตัน ได้ระบุว่า “ความกลัวที่ไม่รู้จัก” เป็นกลไกของการวิวัฒนาการที่ขับเคลื่อนให้มนุษย์นั้นอยู่รอดและดำรงเผ่าพันธุ์มาตั้งแต่ต้น ซึ่งทำให้คำอธิบายถึงโรคกลัวน้ำลึกนั้นดูสมเหตุสมผล เพราะวิวัฒนาการของมนุษย์นั้น เกิดขึ้นเพราะมีแรงผลักดันให้มนุษย์หนีห่างจากน้ำลึก และขึ้นไปอยู่บนฝั่ง นั่นเอง
ประสบการณ์ – นอกจากพันธุกรรมแล้ว โรคนี้อาจจะเกิดขึ้นได้จากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นอดีตเคยจมน้ำ หรือเคยเจอตัวอะไรบางอย่าง หรือมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับทะเล หรือแม้กระทั่งได้ฟัง หรือได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับทะเลในด้านน่ากลัวจนฝังใจ เป็นต้น

สำหรับคนที่มีอาการหรือเป็นโรคเหล่านี้ มักจะไม่ค่อยส่งผลกระทบอะไรต่อชีวิตประจำวันมากนัก เพราะจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่ออยู่ในห้วงทะเลลึก หรือระหว่างดำน้ำ ซึ่งมักเป็นกิจกรรมที่คนกลุ่มนี้มักจะหลีกเลี่ยงอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลแต่อย่างใด เพราะทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น เป็นแค่ความกลัวในจิตใจเท่านั้นเอง
เอาล่ะ ถ้าคุณยังไม่ค่อยแน่ใจว่า ตัวคุณเองนั้นมีอาการเหล่านี้มั้ย ลองดูภาพข้างล่างต่อไปนี้ และตอบตัวเองว่า คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นภาพเหล่านี้

หรือภาพวาฬใต้ทะเลแบบนี้

หรือวาฬยักษ์เทียบกับเรือขนาดใหญ่.. แบบนี้

เป็นยังไงกันบ้างครับคุณผู้อ่าน คุณมีอาการต่างๆเหล่านี้มั้ย หรือไปเที่ยวทะเลแล้วเคยรู้สึกอะไรแบบนี้มั้ย ที่จริงแล้ว ทะเลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และความสวยงามของทะเลนั้น เมื่อเทียบแล้วก็มีเยอะกว่าด้วย ยังไงก็ตาม ไม่ว่าทริปหน้าร้อนนี้จะเป็นที่ไหน ก็ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ และมีความสุขกับหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้นะครับที