ถ้าจะให้ยกใครสักคนที่เป็นสีสันของโลกโซเชียลมากที่สุดในช่วงนี้.. เอ่อ จริงๆก็ตลอดเวลาที่ผ่านมาแหละ คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกซะจาก อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าของบริษัทชั้นนำของโลกอย่าง Tesla, Space X และอื่นๆ
โดยหากใครยังจำกันได้ถึงวีรกรรมปั่นๆของลูกพี่นั้น ก็เช่น มีครั้งหนึ่งที่อีลอน มัสก์เคยโดนท้าให้ลบ Facebook Page ของ Space X และ Tesla ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนหลายล้าน และแน่นอน คนจริงอย่างอีลอน มัสก์ ก็ไม่รอช้า ทำการลบ Facebook Page ของบริษัททิ้งทันที หรือวีรกรรมล่าสุดในช่วงที่ผ่านมา ที่มีการทวีตปั่นประสาทกับรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นการท้าดวลตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีรัสเซีย เป็นต้น

ล่าสุด อีลอน มัสก์ ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กำลังคิดอย่างจริงจังที่จะสร้างแพล็ตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นของตัวเอง (และแน่นอน คนจริงรวยจริงอย่างอีลอน ใครว่าทำไม่ได้ จริงมั้ย)
โดยอีลอน มัสก์นั้นได้คอมเม้นท์แสดงความคิดเห็นตอบผู้ติดตามของเขาในทวิตเตอร์ว่า ตอนนี้เขาเองกำลังกังวลถึงเสรีภาพในการพูด (free speech) ในแพล็ตฟอร์มอย่างทวิตเตอร์

“เสรีภาพในการพูดนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในระบอบประชาธิปไตย คุณคิดว่าในทวิตเตอร์นี้ได้ยึดมั่นในหลักการนี้อย่างเคร่งครัดหรือเปล่า?” อีลอน มัสก์นั้นได้ทวีตสร้างโพล์ถามความคิดเห็นผู้ติดตามของเขาเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เขายังทวีตถามต่ออีกว่า

“ทวิตเตอร์นั้นเปรียบเสมือนจัตุรัสกลางเมือง (ที่คนสามารถออกมาพูดหรือแสดงออกได้อย่างเสรี) แต่ตัวแพล็ตฟอร์มเองนั้น กลับไม่สามารถทำตามหลักการแห่งประชาธิปไตยพื้นฐานได้ ดังนั้นควรจะต้องทำอย่างไร?”
อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อ PPathole ได้เมนชั่นถึงอีลอน มัสก์ว่า ตัวเขาควรจะสร้างโซเชียล มีเดีย แพล็ตฟอร์มใหม่ขึ้นมา และอยากให้เป็นแบบ Open-Source

โดยผู้ใช้คนดังกล่าวได้เสริมว่า โซเชียลเน็ตเวิร์คใหม่ที่อีลอน มัสก์จะสร้างนี้ ควรเป็นแพล็ตฟอร์มที่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการพูดมากที่สุด และต้องเป็นที่การ propaganda นั้นมีน้อยที่สุด
ซึ่งแน่นอน ลูกพี่อีลอน มัสก์ก็ได้ตอบกลับทวีตนั้นว่า ตัวเขาเองก็กำลังพิจารณาอย่างจริงจังอยู่เช่นกัน
ก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่า อีลอน มัสก์นั้นจะทำจริงอย่างที่พูดมั้ย และทำออกมาแล้วจะทำได้ดีหรือเปล่า โดยเฉพาะในช่วงที่กระแสการใช้งาน Facebook นั้นตกลงอย่างมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯก็ได้สร้างโซเชียลมีเดียแพล็ตฟอร์มของตัวเอง และเริ่มเปิดใช้งานในสหรัฐฯแล้วเช่นกัน
ที่มา : businessinsider.com