ขอสรุปสั้นๆสำหรับคนที่ยังลังเลอยู่และขี้เกียจอ่านแบบยาวๆเลยว่า Thor : Love and Thunder เป็นภาพยนต์ความยาวเกือบ 2 ชั่วโมงที่จะทำให้คุณสนุกจนอยู่ดีๆก็หนังจบโดยไม่รู้ตัว สนุกจนคุณไม่รู้เลยว่า คุณนั่งอยู่ในโรงหนังมา 2 ชั่วโมงแล้ว ยังไงยังงั้นเลย

สำหรับคนที่ชอบอ่านแบบยาวๆ ต่อไปนี้เป็นการรีวิวแบบไม่สปอยล์ (จะพูดถึงเฉพาะสิ่งที่มีในตัวอย่างภาพยนต์เท่านั้น)
คนรักเก่า
หนึ่งในพาร์ทที่คาใจผมมากที่สุด คือการหายตัวไปของ เจน ฟอสเตอร์ แฟนสาวนักวิทยาศาสตร์สุดสวยของเทพเจ้าธอร์นั่นเอง เพราะในภาคก่อนๆนั้น ธอร์เพียงแค่พูดถึงเจนว่า เลิกรากันไปแล้ว แต่ไม่ได้พูดถึงสาเหตุหรือเรื่องราวใดๆเพิ่มเติม (ไม่แน่ใจว่าคอมมิคนั้นพูดถึงมั้ย)

อย่างไรก็ตาม การกลับมาของเจนในภาคนี้ และสาเหตุที่ทำให้เธอกลายมาเป็นเทพเจ้าสายฟ้าเคียงคู่กับธอร์นั้น ถึงกับทำให้ผมร้องว้าวพร้อมๆกับความรู้สึกบางอย่าง ที่คงไม่สามารถบอกออกมาได้ เพราะจะเป็นการสปอยล์ส่วนสำคัญของหนัง
ความรู้สึกนั้น ผูกติดกันกับเรื่องราวของอาวุธคู่ใจของธอร์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งความรู้สึกและเรื่องราวอะไรนั้น ก็คงต้องไปดูในโรงภาพยนต์กันเอาเอง

การกลับมาของเจนนั้น ทำให้ผมรู้สึกเติมเต็มส่วนที่ขาด หากจะนึกย้อนกลับไปแล้ว การอยู่ดีๆก็หายไปของเจนหลังจบภาค 2 นั้น อาจจะเป็นความรู้สึกเหมือนโดนแฟนบอกเลิกไป และอยู่ดีๆก็หายไป แต่หลังวันเวลาผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง เธอก็กลับมา กลับมาให้คำตอบของคำถาม ทำให้สิ่งที่ค้างคาใจอยู่นั้น ได้รับคำตอบ เหมือนเจนที่กลับมา เพื่อตอบคำถามกับคนดูว่า ทำไม ‘แฟนเก่า’ ธอร์ถึงหายไป
จากเทพผู้ทรงเกียรติ สู่เทพแห่งปุถุชน
หนึ่งในพาร์ทที่ชอบที่สุดของธอร์ คือความเป็นมนุษย์นั่นเอง ความเป็นมนุษย์ในตัวตนของเทพเจ้า ที่ทำให้ธอร์นั้นแตกต่างจากซุส แตกต่างจากเฮอร์คิวลิส และแตกต่างจากเทพองค์อื่นๆ

ใน Thor : Love and Thunder นี้ เราจะเห็นพัฒนาการของตัวละคร และผลกระทบจากเส้นเรื่องในจักรวาล Marvel เรื่องอื่นๆ ที่ทำให้จากเทพผู้ทรงเกียรติและเชื่อมั่นในพละกำลังของตัวเองนั้น กลายเป็นเทพที่ต่อสู้เพื่อคนที่ที่อ่อนแอมาขึ้น ถึงแม้ว่า เอ่อ.. จะยังยึดติดกับเกียรติของตัวเองบ้างก็เถอะ

ในภาคนี้เราได้เห็นเส้นทางของแก๊ง Guardian of the Galaxy ที่ธอร์ได้กลายมาเป็นหนึ่งในแก๊ง ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า ในภาคต่อไปนั้น จะมีเรื่องราวของธอร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในการพิทักษ์จักรวาลของแก๊งบ๊องๆแก๊งนี้

การตัดสินใจ
อย่างที่บอกไปในตอนนั้น เส้นเรื่องที่ปูมา ที่ทำให้เทพเจ้าธอร์นั้นมีความเห็นอกเห็นใจในฐานะมนุษย์มากขึ้นนั้น รวมทั้งสิ่งที่ตัวเขาเองกำลังเผชิญร่วมกันกับเจนนั้น ทำให้ในตอนท้ายสุดแล้ว ปมของเส้นเรื่องที่ขมวดทุกปัญหาเข้าด้วยกันจนถึงจุดที่ต้องตัดสิน เกิดเป็นสถานการณ์ที่ทำให้เราได้เห็นความเป็นมนุษย์ที่สุดของธอร์ ซึ่งทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คือเทพที่มนุษย์รักที่สุดแล้ว

หนังได้ทิ้งปมสำคัญไว้ให้เราได้คิดต่อ เมื่อไหร่ที่เราต้องถึงจุดที่ต้องเลือกในชีวิตของเรา เราจะเลือกอะไร ระหว่างการนั่งกังวลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ หรือจะใช้ชีวิตให้เหมือนวันสุดท้ายของชีวิต และสนุกไปกับมัน

แน่นอนว่า แต่ละคนอาจจะตอบคำถามนี้ไม่เหมือนกัน แต่เชื่อว่าปมในหนังนั้น อาจจะช่วยให้หลายคนฉุกใจคิดได้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการเห็นคุณค่าของคนที่เรารักในตอนที่ยังทำได้นั่นเอ
สรุป

Thor : Love and Thunder นั้นเป็นภาพยนต์ที่ทำให้ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงเต็มของคุณไม่เบื่อเลย และตามสไตล์ของ Marvel ช่วงหลังๆ ที่จะไม่ได้เน้นความบู๊ล้างผลาญอย่างเดียว แต่ใส่มุกตลกโจ๊กๆเข้ามาเป็นระยะ จนบางครั้งก็ไม่แน่ใจว่าเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่หรือหนังตลกกันแน่
ปล. ชอบเสียงแพะในเรื่องมากกกกก